ตามรอยพ่อของแผ่นดิน แถลงความสำเร็จการน้อมนำศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การปฏิบัติ  เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างยั่งยืน

ตามรอยพ่อของแผ่นดิน แถลงความสำเร็จการน้อมนำศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การปฏิบัติ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์โครงการปี 1

เชฟรอนประเทศไทย จับมือ “สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง” และ “มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ” แถลงความสำเร็จของโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” หลังได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาดในกิจกรรมนำร่องเดินทางเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชา 9 วัน มีพลังคนไทยจิตอาสาเข้าร่วมมากกว่า 2,000 คน

นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เปิดเผยว่า “ผลสรุปการดำเนินโครงการ ตลอด 9 วันของการเดินทางเรียนรู้ศาสตร์พระราชาในการบริหารจัดการน้ำ จากปลายน้ำสู่ต้นน้ำ เพื่อเรียนรู้จากสถานที่จริงและลงมือปฏิบัติจริงในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างยั่งยืนที่เราได้รับ นับว่าเป็นความร่วมมือและกระแสตอบรับที่ดียิ่งจากประชาชนคนไทย โดยเฉพาะคนจิตอาสาที่เข้าร่วมขบวนเดินทางทั้ง 9 วัน กว่า 2,000 คน  ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชนและเยาวชนในชุมชนท้องถิ่นตลอดเส้นทางที่เข้าร่วมเพื่อรับทราบถึงปัญหาและวิธีการแก้ไขของพื้นที่ตนเอง จนทำให้มีชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือน ลงรายชื่อยืนยันที่จะนำโมเดล โคก หนอง นา ไปใช้ในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ทางเราและสถาบันตั้งไว้ที่ 100 ครัวเรือน นอกจากนั้น ผู้เข้าร่วมโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะพนักงานของเชฟรอนเอง ต่างเห็นด้วยกับกิจกรรมในครั้งนี้ และกล่าวว่าได้รับความรู้ในเรื่องของการจัดการน้ำ หลักเศรษฐกิจพอเพียง และหลักกสิกรรมธรรมชาติ ทั้งยังได้ลงมือปฏิบัติด้วย เชฟรอนเองจึงเชื่อมั่นว่าโครงการฯ นี้จะสามารถช่วยแก้ปัญหาการจัดการน้ำได้ หากมีการสานต่อการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง” 

นายไพโรจน์ กล่าวว่า “โดยหลังจากนี้ เชฟรอนจะยังคงร่วมมือกับสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ เป็นโครงการต่อเนื่องอีก 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2557-2559 เพื่อให้รากฐานที่เราสร้างมาในครั้งนี้เกิดขึ้นสำเร็จเป็นรูปธรรม เกิดการรับรู้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งการทํางานยังคงเน้นเรื่องการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสักเป็นหลัก ทั้งการให้ความรู้กับชุมชน เยาวชน และประชาชนทั่วไป และการอนุรักษ์น้ำและป่าตามศาสตร์พระราชา เพื่อสร้างโมเดลการจัดการลุ่มน้ำต้นแบบ นอกจากนี้ ในส่วนของเชฟรอนเอง จากวันนี้ถึงสิ้นปี เรายังได้ร่วมมือกับทางสถาบันฯ ในการสร้างความเข้มแข็งให้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่หนองโน และที่โรงเรียนบ้านโป่งเกตุ โดยให้การสนับสนุนหลายด้าน แต่ส่วนที่สำคัญคือ เชฟรอนจะนําพนักงานไปร่วมกันทํากิจกรรม ทั้งการทําโคก หนอง นา และอื่น ๆ” นายไพโรจน์กล่าว

ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง และมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า “โครงการฯ นี้ เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติได้มารวมตัวกันทำงานที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ซึ่งเหตุผลที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้เพราะเราอยากบอกให้คนไทยรู้ว่า เรามีศาสตร์ มีองค์ความรู้ที่พระราชาองค์นี้พระราชทานไว้ให้ที่จะช่วยให้เรารอดได้ในภาวะวิกฤต นอกจากนั้นยังมีภูมิปัญญาพื้นบ้านที่บรรพบุรุษของเราทำกันมานานแล้ว แต่เราเองหลงลืม เพ้อไปกับความทันสมัย กับความรู้ทางตะวันตก กิจกรรมนี้ทำให้เราได้พิสูจน์ว่า ความรู้ของเรานี้เองที่เหมาะสมกับบ้านเรามากที่สุด โคก หนอง นา โมเดล นี้เองที่จะทำให้เรารอดพ้นจากวิกฤตทั้งหลาย ถึงแม้การเดินทางตลอด 9 วันของโครงการฯ ได้จบลงไปแล้ว แต่โครงการนี้ยังไม่สิ้นสุดลง จะเดินหน้าปฏิบัติบูชาตามรอยพระองค์ท่านต่อไป โดยมีเป้าหมายในการค้นหา ‘ชุมชนและคนมีใจ’ 100,000 รายเข้าร่วมภารกิจแสนหลุมขนมครกหยุดน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างยั่งยืน ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับภารกิจนี้ได้ถ้ารวมพลังช่วยกันลงมือทำจริงตามศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น วิกฤตจะบรรเทาและเราจะผ่านพ้นไปได้อย่างแน่นอน”

ด้าน นายวัชระ แวววุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้ผลิตรายการ เจาะใจ กล่าวว่า “ในฐานะสื่อเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับโครงการนี้ ได้มีโอกาสทำหน้าที่เป็นสื่อกลางที่ช่วยจุดกระแสสังคมให้ตื่นตัวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ได้ส่งต่อแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนในสังคมช่วยกันลงมือปฏิบัติสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นจริง ทำให้ประชาชนทั่วประเทศได้เห็นพลังสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ของกลุ่มคนที่ไปร่วมกิจกรรม เจาะใจติดตามบันทึกภาพเหตุการณ์แบบเกาะติดตลอดเส้นทางนำมาออกอากาศ 3 ตอน โดยมี 4 ดาราและคนดังที่อาสาเข้าร่วมกิจกรรม คือ คุณแพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์, คุณอ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์ คุณบอย พิษณุ นิ่มสกุล และคุณก้อง ทรงกลด บางยี่ขัน เป็นผู้นำขบวนการเดินทางและทำกิจกรรมไปด้วยกันจนถึงปลายทาง ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมรายการมีกระแสตอบรับจากเฟซบุ๊คของรายการที่เอ่ยชมโครงการนี้เป็นจำนวนไม่น้อยเลยครับ”